ข่าวภาคเหนือ » รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เน้นย้ำสร้างการรับรู้และกำหนดเขตคุ้มครองนกเงือกในพื้นที่อมก๋อย

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เน้นย้ำสร้างการรับรู้และกำหนดเขตคุ้มครองนกเงือกในพื้นที่อมก๋อย

18 มิถุนายน 2025
65   0

Spread the love

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เน้นย้ำสร้างการรับรู้และกำหนดเขตคุ้มครองนกเงือกในพื้นที่อมก๋อย


วันที่ 17 มิถุนายน 2568 ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายศิวะ ธมิกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมแถลงข่าวในการประชุมสื่อมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 17 โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญในการสร้างการรับรู้และกำหนดขอบเขตพื้นที่อนุรักษ์นกเงือกในเขตบ้านทีเนอะ ตำบลนาเกียน อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของนกกก (Great Hornbill) นกเงือกหายากที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย


รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า “นกเงือกเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองที่ใกล้สูญพันธุ์ การอนุรักษ์ไม่สามารถเกิดผลได้ หากขาดการมีส่วนร่วมและความเข้าใจจากชุมชนในพื้นที่” พร้อมระบุว่า อดีตพื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นแหล่งปลูกพืชต้องห้าม แต่หลังจากมีการรณรงค์และสร้างความรู้ความเข้าใจกับชาวบ้าน ปัจจุบันสถานการณ์ได้เปลี่ยนไปในทางที่ดี จึงต้องต่อยอดแนวทางเหล่านี้ไปสู่การรักษาแหล่งที่อยู่อาศัยของนกเงือกให้มั่นคง
“เราจำเป็นต้องกำหนดขอบเขตพื้นที่ให้นกเงือกอยู่อย่างสงบ ไม่ถูกรบกวน ไม่ว่าจะจากนักท่องเที่ยวหรือกิจกรรมของชาวบ้าน โดยเฉพาะการทำไร่หมุนเวียน การเผาป่า และการตัดไม้ใหญ่ ซึ่งกระทบต่อการทำรังและเลี้ยงลูกของนก” รองผู้ว่าฯ กล่าว พร้อมเสนอให้ใช้ความรู้ของกลุ่มนักดูนกและนักวิชาการมาเผยแพร่แก่ชุมชนเพื่อสร้างความเข้าใจ และขยายเครือข่ายการอนุรักษ์ให้ยั่งยืน


ด้านการดำเนินงานในพื้นที่ นายกฤตภาส นัขทะธงสกุลดี เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 2562 มีรายงานการพบเห็นนกกกในพื้นที่บ้านทีเนอะอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับความร่วมมือจากนักดูนก อาทิ ผศ.จรัลศักดิ์ ลอยมี นายศราวุธ นนทธิ และ น.สพ.ขจรพัฒน์ บุญประเสริฐ (หมอเหยี่ยว) ซึ่งช่วยยืนยันการใช้โพรงรังตามธรรมชาติของนกกก และเฝ้าติดตามจนถึงปัจจุบัน  ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2568 เริ่มมีความกังวลว่ากิจกรรมของชาวบ้านใกล้โพรงรังอาจกระทบต่อลูกนกที่กำลังเติบโต ซึ่งโดยเฉลี่ยมีเพียง 1 ตัวต่อครั้ง หากเกิดการรบกวนอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้นกเงือก “ทิ้งรัง” และลดโอกาสรอดในธรรมชาติ  เพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) ได้จัดประชุมเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2568 เพื่อหารือแนวทางอนุรักษ์ โดยมีผู้แทนจากภาครัฐ ภาคประชาชน นักวิชาการ และองค์กรเอกชนร่วมประชุม ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแนวทางดำเนินงาน 3 ด้าน ได้แก่ อำเภออมก๋อยเป็นศูนย์กลางการบริหารจัดการ, ชุมชนบ้านทีเนอะและองค์การบริหารส่วนตำบลนาเกียนเป็นผู้ดำเนินการหลักในพื้นที่, ทุกภาคส่วนร่วมสนับสนุนด้านความรู้ กฎหมาย งบประมาณ และการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง


ทั้งนี้ นกกกเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามกฎหมายตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ซึ่งห้ามล่า เลี้ยง หรือครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต อีกทั้งยังถือเป็นดัชนีชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า หากถิ่นอาศัยถูกรบกวน ก็จะกระทบต่อระบบนิเวศโดยรวม
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้เน้นย้ำปิดท้ายว่า “ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อทุกคนในพื้นที่มีความเข้าใจและมีส่วนร่วม โดยเฉพาะการตีกรอบพื้นที่อนุรักษ์ให้ชัดเจน และการสร้างการรับรู้ให้กับคนในชุมชนว่า พื้นที่เหล่านี้เป็นบ้านของสัตว์ป่าหายากที่เราต้องช่วยกันปกป้อง”  สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) ยังคงเดินหน้าสร้างกระบวนการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมและเครือข่ายอนุรักษ์ในระดับพื้นที่ เพื่อให้ “นกกก” อยู่คู่ผืนป่าเชียงใหม่อย่างยั่งยืนต่อไป


.