ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ นำส่วนราชการรับมอบนโยบายแก้ปัญหายาเสพติดจากรองนายกรัฐมนตรี ตามโครงการ “รวมพลัง รักศรัทธา แก้ปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการ”
วันนี้ (24 ต.ค. 68) ที่ ห้องประชุม 3 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมรับฟังนโยบายการปฏิบัติราชการในภูมิภาคและนโยบายของรัฐบาล เพื่อขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติด จากนายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี ผ่านระบบ VDO Conference ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมในงาน “รวมพลัง รักศรัทธา แก้ปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการ Big Quick Win : ขับเคลื่อนอย่างเร็ว สู่ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่” ซึ่งสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้จัดขึ้นเพื่อให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม และลดการแพร่ระบาดของยาเสพติดในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
ภายในงานได้เปิดวิดีทัศน์ตัวอย่างผลการดำเนินโครงการ “รวมพลัง รักศรัทธา แก้ปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการ” ที่ถ่ายทอดเรื่องราวเตือนใจถึงพิษภัยของยาเสพติด และพลังรักจากครอบครัวและชุมชนที่ช่วยให้ผู้หลงผิดกลับคืนสู่สังคม จากนั้น นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายในการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติดให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด 20 จังหวัดในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่อยู่ภายในงาน ที่ ห้องประชุมสนามช้างอารีนา จังหวัดบุรีรัมย์ ส่วนผู้ว่าราชการจังหวัดที่เหลืออีก 56 จังหวัด รับฟังนโยบายผ่านระบบออนไลน์
โดย นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้นโยบายว่า การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระเร่งด่วนที่รัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุด ต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วและจริงจัง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนเห็นถึงความตั้งใจของรัฐบาล โดยใช้แนวทาง “บุรีรัมย์โมเดล” เป็นต้นแบบในการขยายผลสู่จังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้ประเทศไทยก้าวสู่สังคมปลอดยาเสพติดอย่างยั่งยืน ตามแนวทางโครงการ “งานรวมพลัง รักศรัทธา แก้ปัญหายาเสพติด” ทั้งนี้ ได้มีการจัดทำคู่มือในการปฏิบัติงานแก้ไขปัญหายาเสพติดให้กับทุกจังหวัดนำไปขยายผลการดำเนินงาน โดยอยากให้ทุกจังหวัดให้ความสำคัญกับการปฏิบัติจริง มีการตั้งคณะกรรมการที่บูรณาการทำงานกันอย่างจริงจังตั้งแต่ระดับจังหวัดลงไปถึงระดับหมู่บ้านและชุมชน โดยมีการแต่งตั้ง ส.ส. ในพื้นที่ซึ่งเป็นตัวแทนของภาคประชาชนเข้ามาเป็นที่ปรึกษาร่วมด้วย
สำหรับ ผลการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2568 ในส่วนของด้านการป้องกัน ได้ให้ความรู้และทักษะที่จำเป็นเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติดให้กับเด็กและเยาวชนในสถานศึกษา กลุ่มผู้ใช้แรงงาน และประชาชนทั่วไป พร้อมทั้งบูรณาการตรวจสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่กระจายยาเสพติดอยู่เป็นประจำ , ด้านการบำบัดรักษา ได้นำตัวผู้เสพและผู้ติดยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาทุกระบบ รวมทั้งสิ้น 9,150 ราย และนำผู้เสพยาเสพติดที่มีอาการทางจิตเข้าสู่กระบวนการบำบัด 984 ราย รวมทั้งได้ติดตามดูแลช่วยเหลือผู้ผ่านการบำบัดรักษาแล้ว 2,251 ราย และในด้านการปราบปราม ได้ควบคุมสกัดกั้นและปราบปรามทำลายกลุ่มเครือข่ายการค้ายาเสพติดทุกระดับ โดยสามารถจับกุมคดีร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดได้ 5,257 คดี ยึดของกลางยาบ้าได้กว่า 132 ล้านเม็ด เฮโรอีน 75 กิโลกรัม ยาไอซ์ 3,027 กิโลกรัม ฝิ่น 91 กิโลกรัม เคตามีน 241 กิโลกรัม และสามารถยึดทรัพย์สินในคดียาเสพติดได้กว่า 284 ล้านบาท
