บรรยากาศการเมืองในจังหวัดเชียงใหม่กลับมาคึกคักอีกครั้ง ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน โดยคาดการณ์วันเลือกตั้งจะอยู่ระหว่างวันที่ 45 – 60 วัน หรือประมาณวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 นี้

วันที่ 13 ธันวาคม 2568 ที่ ห้องประชุมภัตตาคารเจี่ยท้งเฮงเชียงใหม่ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ ส.ว.ก๊อง นายก อบจ.เชียงใหม่ และหัวหน้ากลุ่มเพื่อไทยเชียงใหม่ เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 10 เขต โดยประกาศความพร้อมและตั้งเป้าหมายที่จะได้รับเลือกตั้งยกจังหวัด ตามนโยบาย “ยึดคืนเมืองหลวง” ของพรรคเพื่อไทย

นายพิชัยกล่าวว่า พรรคมีความพร้อม 100% ในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ “ครั้งนี้พรรคสู้เต็มที่สุดกำลังไม่ยอมพรรคไหนเหมือนกัน” พร้อมย้ำว่าตนจะลงพื้นที่ช่วยหาเสียงในฐานะพี่เลี้ยงและผู้ช่วยผู้สมัคร เพื่อรับฟังปัญหาและชูนโยบายของพรรคเพื่อไทย
โดยเบื้องต้นพรรคเพื่อไทยได้วางตัวว่าที่ผู้สมัครครบทั้ง 10 เขต เริ่มที่ เขต 1 นพ.ธีรพัฒน์ ตันพิริยะกุล (หมอโจ้) อดีตรองนายก อบจ.เชียงใหม่, เขต 2 นพ.เพทาย เตโชฬาร อดีต รองนายก อบจ. เชียงใหม่, เขต 3 นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม (ท็อป) อดีต ส.ส. เชียงใหม่, เขต 4 นายภาณุ เจริญสุข (โน๊ต) อดีตนายกเทศมนตรีตำบลเจดีย์แม่ครัว อ.สันทราย และ เขต 5 น.ส. อัจฉรารัตน์ นันทะเสน (ไปร์ท) รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย สาขาเชียงใหม่ บุตรสาว นายสมทบ นันทะเสน นายก อบต.แม่สา อ.แม่ริม ส่วน เขต 6 นายบรรจงศักดิ์ วงศ์รัตนวรรณ (หนุ่ย) คนใกล้ชิดนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และผู้ช่วยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, เขต 7 นายนิธิกร วุฒินันชัย (เอก) อดีตเลขานุการนายก อบจ. บุตรชายนายประสิทธิ์ วุฒินันชัย อดีต ส.ส.เชียงใหม่, ส่วนเขต 8 นายณัฐน์พัฒน์ รัฐผไท บุตรชายนายนพคุณ รัฐผไท อดีต ส.ส. เชียงใหม่, เขต 9 นายยงยุทธ์ ยาวิชัย ส.อบจ. อ.จอมทอง เขต 2 และเขต 10 น.ส.ศรีโสภา โกฏคำลือ (ออม) ส.ส.เชียงใหม่, บุตรสาวนายศรีเรศ โกฏคำลือ ซึ่งเป็นอดีตส.ส.เชียงใหม่



ที่สำคัญสนามเลือกตั้งเชียงใหม่น่าจับตามองเป็นพิเศษ เนื่องจากมีกระแสข่าวการเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งรวมถึงชื่อของ นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ บุตรชายคนโตของอดีตนายกฯ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ กับ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ (เจ๊แดง) อีกหนึ่งในคนที่คาดว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ 1 ใน 3 คน ที่ทางพรรคเพื่อไทยสำนักงานใหญ่จะได้ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 ธันวาคมนี้ อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้จะเป็นการต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความไว้วางใจของประชาชนชาวเชียงใหม่.



