รองผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ย้ำให้อำเภอเร่งทำประชาคมทุกหมู่บ้าน และขออนุญาตใช้ไฟภายในเดือนนี้ เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์จริงในเดือนมกราคม 68

วันนี้ (25 ธ.ค. 67) ที่ห้องปฏิบัติการ ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง จังหวัดเชียงใหม่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มอบหมายให้ นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง จังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 2 โดยมี ส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมฯ

ในที่ประชุม สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ รายงานว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการรับมือสถานการณ์ไฟป่า สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ ได้รวบรวมข้อมูลจุดความร้อนของจังหวัดเชียงใหม่ โดยอัพเดทในเช้าวันนี้จากการตรวจจับของดาวเทียมของวันที่ 25 ธันวาคม 2567 เวลา 02.20 น. ตรวจพบจุดความร้อนที่อำเภอแม่แจ่ม จำนวน 1 จุด ในพื้นที่เขตป่าสงวน ขณะที่สถิติจุดความร้อนสะสมตั้งแต่วันที่ 1-24 ธันวาคม 2567 ซึ่งยังไม่ได้อยู่ในห้วงเวลาของการประกาศห้ามเผาในพื้นที่โล่ง มีการตรวจพบจุดความร้อนทั้งหมด 14 อำเภอ จำนวน 54 จุด ส่วนใหญ่เกิดในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ พื้นที่เกษตร และพื้นที่ชุมชนอื่นๆ และพบมากที่สุดในพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม เชียงดาว พร้าว ตามลำดับ ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าว รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เน้นย้ำให้อำเภอดังกล่าว ต้องเร่งดำเนินการทำประชาคมให้ครบทุกหมู่บ้านทั้งในและนอกพื้นที่ป่า และต้องให้นายอำเภอประสานกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นำประกาศของจังหวัดเชียงใหม่ไปแจ้งและทำความเข้าใจกับประชาชนทุกหมู่บ้าน ที่สำคัญคือจะต้องมีผลการประชาคมและเร่งลงทะเบียนขออนุญาตใช้ไฟภายในเดือนธันวาคม นี้ ก่อนจะเข้าสู่ช่วงสถานการณ์จริงในเดือนมกราคม 2568 ที่จะถึงนี้

ขณะที่ สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) ก็ได้รายงานค่าคุณภาพอากาศในพื้นที่ว่า สถานการณ์ฝุ่นในปัจจุบันคือระหว่างห้วงวันที่ 1-24 ธันวาคม 2567 ซึ่งไม่ได้เป็นช่วงของการประกาศห้ามเผา จังหวัดเชียงใหม่มีจำนวนวันที่ค่าคุณภาพอากาศเกินค่ามาตรฐาน คือ 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จำนวนทั้งหมด 5 วัน ซึ่งส่วนใหญ่วันที่เครื่องตรวจวัดค่าคุณภาพอากาศเกินมาตรฐานตรวจจับค่าได้นั้น มีสาเหตุมาจากการเผาเศษขยะทั่วไปในพื้นที่ชุมชน ดังนั้นจะเห็นได้ว่าแม้ยังไม่ได้เข้าสู่ช่วงเวลาของการเกิดไฟป่า ก็ยังมีฝุ่นสะสมอยู่ในอากาศ เนื่องจากจำนวนวันที่ทำให้ค่าฝุ่นเกินค่ามาตรฐานเกิดจากหลายสาเหตุ อาทิ การเผาเศษขยะต่างๆ ตามพื้นที่ชุมชน หรือแม้แต่ฝุ่นที่เกิดจากโคลนหลังจากเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา ซึ่งเครื่องวัดฝุ่นละอองในอากาศที่ติดตั้งไว้ทั่วพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จะสามารถตรวจวัดค่าฝุ่นไว้ได้ทั้งหมด

ทั้งนี้ นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เน้นย้ำกับทุกหน่วยงาน ดำเนินการป้องกันและลดปัญหาหมอกควันไฟป่าและฝุ่นละอองในปีนี้อย่างเข้มข้นมากขึ้น ภายใต้ 3 หลักการ คือ เปิดรับและทำงานร่วมกันอย่างมีส่วนร่วมและมีความหมาย ขับเคลื่อนด้วยระบบข้อมูลและนวัตกรรม และเน้นการทำงานเชิงป้องกันและการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามตัวชี้วัดและเป้าหมายที่ตั้งไว้
